บริการซ่อมบำรุงอาคาร: รู้ได้อย่างไรว่าเกิดไฟรั่วในบ้าน เมื่อได้ทราบถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเมื่อมีไฟรั่วภายในบ้านกันไปแล้ว คำถามต่อมาคือจะทราบได้อย่างไรว่าไฟฟ้าในบ้านยังเป็นปกติ หรือมีจุดไหนที่กำลังมีไฟรั่วอยู่ จริง ๆ แล้วในเบื้องต้นเราสามารถลองสังเกตสัญญาณเตือนไฟฟ้ารั่วที่อาจทำให้เกิดไฟช็อตภายในบ้านได้ ด้วยจุดสังเกตต่าง ๆ ดังนี้
1. สังเกตได้จากค่าไฟที่สูงขึ้นจนผิดปกติ
อย่างที่ได้อธิบายไปข้างต้นแล้วว่าเหตุใดการเกิดไฟรั่วจึงส่งผลให้ค่าไฟสูงขึ้น ดังนั้น หากพบว่าบิลค่าไฟฟ้าสูงขึ้นจนผิดปกติทั้ง ๆ ที่มีการใช้ไฟฟ้าในบ้านโดยเฉลี่ยเท่าเดิม และไม่ได้เป็นความผิดปกติที่เกิดจากการเพิ่มค่า FT ของการไฟฟ้า ก็ให้รีบตรวจสอบโดยให้ลองสังเกตดูอัตราการหมุนของมิเตอร์ไฟฟ้าว่ามีความเร็วสม่ำเสมอหรือไม่
หรืออาจลองทดสอบโดยการจดเลขมิเตอร์เอาไว้ จากนั้นให้ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดในบ้านโดยไม่ต้องดึงเบรกเกอร์หรือคัทเอาท์ลง แล้วลองสังเกตที่มิเตอร์ว่าแผ่นจานด้านในมิเตอร์ยังหมุนอยู่หรือไม่ หากแผ่นจานที่ว่านี้ยังคงหมุนอยู่ หรือหากทิ้งไว้สักพักแล้วค่าตัวเลขมิเตอร์ยังขยับเพิ่มขึ้น นั่นหมายถึงยังมีไฟฟ้าอยู่ในระบบ และอาจเป็นสัญญาณเตือนว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วอยู่ที่จุดใดจุดหนึ่งภายในบ้านนั่นเองครับ
2. สังเกตได้จากเครื่องตัดไฟในบ้านที่ตัดไฟบ่อยจนผิดปกติ
สำหรับเครื่องตัดไฟรั่วที่มีการติดตั้งตามอาคารบ้านเรือน หรือที่เรียกกันว่า RCD นั้น จะเป็นอุปกรณ์ที่มีหน้าที่ตรวจจับค่าไฟฟ้าและตัดไฟเมื่อค่าไฟฟ้านั้นเกินกว่าค่ามาตรฐานที่เริ่มเป็นอันตรายต่อมนุษย์ โดยอุปกรณ์ RCD นี้จะสามารถแบ่งออกได้เป็นสองแบบ นั่นคือ RCCB ที่ใช้ตัดไฟรั่วแบบเฉพาะจุด และ RCBO ที่สามารถใช้ได้ทั้งตัดไฟรั่ว ไฟเกิน ไฟช็อต และ ไฟฟ้าลัดวงจร แบบครอบคลุมทั้งบ้าน หากใช้เป็นเมนสวิตช์ก็จะสามารถใช้แทนเบรกเกอร์ได้
เรียกได้ว่า RCD เป็น อุปกรณ์เช็คไฟรั่ว อีกประเภทก็ได้ครับ เพราะไม่ว่าจะเป็น RCD แบบไหน กรณีที่มีไฟรั่วหรือไฟเกิน ระบบจะทำการตัดไฟแบบอัตโนมัติ ดังนั้น ข้อสังเกตุเบื้องต้นคือหากมีการตัดไฟบ่อย ๆ และตรวจสอบแล้วตัวเครื่องยังทำงานปกติ ไม่มีการขัดข้อง นั่นก็อาจหมายถึงการมีไฟรั่วภายในบ้านนั่นเองครับ
3. สังเกตได้จากการสัมผัสเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วรู้สึกว่าถูกไฟดูด
สิ่งผิดปกติอีกอย่างหนึ่งที่สามารถใช้เป็นข้อสังเกตว่าภายในบ้านอาจมีไฟรั่ว คือ การสัมผัสเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้า จุดติดตั้งระบบไฟฟ้า หรือโครงโลหะต่าง ๆ ภายในบ้านแล้วารู้สึกว่าถูกไฟดูดนั้นเองครับ เพราะโดยปกติแล้วเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีโอกาสเกิดไฟรั่วได้ง่ายหรือมีโครงสร้างโลหะ รวมถึงบริเวณต่าง ๆ ภายในบ้านที่มีการติดตั้งระบบไฟฟ้าอยู่จะมีการติดตั้งสายดินไว้ภายในระบบ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน
สายดินจะทำหน้าที่นำไฟฟ้าที่รั่วไหลลงดินผ่านทางสายดิน แทนที่จะผ่านร่างกายเรา ดังนั้น หากต่อสายดินอย่างถูกต้องครบถ้วนแล้ว แต่ยังรู้สึกว่าถูกไฟดูดบ่อย ๆ แม้ว่าจะเป็นอาการไฟดูดเล็กน้อย ไม่ได้รุนแรงมาก แต่ก็พอสันนิษฐานได้ว่าอาจมีไฟรั่วที่จุดใดจุดหนึ่งในบ้านหรือในบริเวณนั้น ๆ เช่นกันครับ
4. สังเกตได้จากอุณหภูมิภายในบ้านที่เพิ่มสูงขึ้นจนผิดปกติ
อีกหนึ่งข้อสังเกตที่เคยมีกรณีตัวอย่างเกิดขึ้นแล้ว คือเรื่องของอุณหภูมิภายในบ้านที่เพิ่มสูงขึ้นจนผิดปกติ โดยผิดปกติในที่นี้คือความร้อนในบ้านนั้นร้อนขนาดที่นำไข่ไก่มาวางไว้ที่พื้นบ้านสักพักไข่ไก่นั้นสามารถกลายเป็นไข่ลวกได้เลยครับ แต่เมื่อมีการทดสอบโดยการตัดวงจรไฟฟ้าภายในบ้านแล้วจึงพบว่าอุณภูมิภายในบ้านค่อย ๆ ลดลงจนกลับมาเป็นปกติ เมื่อตรวจสอบโดยละเอียดจึงพบว่ามีไฟรั่วบนฝ้าเพดาน ทำให้กระแสไฟไหลลงดินไปตามคานปูนเสริมเหล็กใต้พื้นดิน จนส่งผลให้บ้านร้อนกว่าปกติไปมาก และสอดคล้องกับค่าไฟที่เพิ่มสูงขึ้นแบบผิดปกติ เรื่องของอุณภูมิภายในบ้านจึงเป็นอีกหนึ่งจุดสังเกตที่บ้านกำลังบอกเราอยู่ได้ครับ